ให้ย้อนกลับไปเมื่อ 7-8 ปีก่อน สมัยเมื่อตอนวัยรุ่น ซึ่งตอนนั้นมี passion ที่อยากจะทำงานเป็น admin ได้ดูแล server computer ในห้อง datacenter ซึ่งก็ได้อย่างหวัง ตอนนั้นก็สนุกมาก ซึ่งได้มีส่วนเปลี่ยนระบบเดิมเป็นระบบใหม่ คือ ระบบ simple click ของธนาคารสีเหลืองย่านพระราม 3 ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ค่อยสนใจนักหรอกว่าทำงานขั้นตอนไหน เขาให้ทำๆก็ทำๆไป ซึ่งพอมาถึงวันนี้ มาเจองานใหม่ใน กทม. ซึ่งไม่มีระบบแบบเดิมอีกแล้ว เราก็ต้องมานั่งไล่กันว่า จะทำอย่างไรดีให้ที่ทำงานเราเป็นระบบระเบียบ มีมาตราฐาน และระบบสำรองรองรับการทำงาน 24*7

ธ.กรุงศรี พระรามที่ 3
ในสายงาน Banking / Financial System การทดสอบจะเข้มงวดกว่าบริษัททั่วไปมาก เพราะระบบมีความเกี่ยวข้องกับ เงิน, ความปลอดภัย, ความถูกต้องของข้อมูล และมักจะต้องผ่าน มาตรฐานสากล (ISO, PCI-DSS, IT Governance) ด้วย ผมสรุปเป็นลำดับมาตรฐานหลัก ๆ ของ การทดสอบซอฟต์แวร์ในธนาคาร ให้ครับ 👇
🏦 มาตรฐานการทดสอบระบบในธนาคาร (Banking Test Standard)
1. Unit Test
-
นักพัฒนาต้องทำทุกครั้งก่อน commit โค้ด
-
มักมี Code Coverage Requirement เช่น ≥ 70–80%
-
เครื่องมือที่ใช้: JUnit, NUnit, Jest ฯลฯ
2. Integration Test (DEV Test)
-
ทดสอบการเชื่อมต่อโมดูลต่าง ๆ ที่ทีมพัฒนาเขียน
-
ในธนาคารมักจะมี Service Layer / Middleware เช่น API Gateway, MQ
-
ต้องทดสอบทั้ง Functional (ทำงานถูกต้อง) และ Non-Functional (Latency, Timeout)
3. System Integration Test (SIT)
-
ขั้นตอนบังคับในธนาคาร
-
ต้องทดสอบ end-to-end ระหว่างระบบย่อย เช่น
-
Core Banking ↔ Internet Banking ↔ Mobile Banking
-
ระบบบัตรเครดิต ↔ Payment Gateway ↔ Third-party
-
-
อาจมี Data Masking (ใช้ข้อมูลจำลองแทนข้อมูลจริง)
4. UAT (User Acceptance Test)
-
ทำโดย Business User / ลูกค้าฝั่งธนาคาร ไม่ใช่ Developer
-
ต้องใช้ Test Case ตาม Business Requirement
-
โค้ดที่ส่ง UAT ต้อง frozen (ไม่แก้ไขนอกจาก Bug Critical)
-
ถ้าไม่ผ่าน UAT → ห้าม Deploy
5. Regression Test
-
ทุกครั้งที่มีการแก้ไขโค้ดในระบบธนาคาร ต้องรัน Regression Test เพื่อมั่นใจว่า ของเดิมไม่พัง
-
มักจะใช้ Automated Testing Tools เช่น Selenium, Tosca, Robot Framework
6. Performance Test (Load/Stress Test)
-
มาตรฐานบังคับของธนาคาร เนื่องจากผู้ใช้จำนวนมาก (Peak Transaction เช่น วันที่เงินเดือนเข้า)
-
ทดสอบ Load Test, Stress Test, Soak Test
-
ใช้เครื่องมือเช่น JMeter, LoadRunner
-
ตัวชี้วัด: Response Time ≤ SLA, Throughput รองรับตามปริมาณธุรกรรมที่คาดการณ์
7. Security Test (Penetration Test / Vulnerability Assessment)
-
Critical Test ในสายธนาคาร
-
ต้องทำทั้ง VA (Vulnerability Assessment) และ PT (Penetration Test)
-
ตรวจสอบตามมาตรฐาน:
-
OWASP Top 10 (Web/Mobile App)
-
PCI-DSS (กรณีเกี่ยวข้องกับบัตรเครดิต)
-
ISO 27001 (Information Security Management)
-
8. DR Test (Disaster Recovery Test)
-
เป็นมาตรฐานพิเศษของธนาคาร
-
ต้องพิสูจน์ว่า หากระบบ Production ล่ม ยังสามารถสลับไปใช้ DR Site ได้จริง
-
มักจะจัดปีละ 1–2 ครั้ง
9. Production Verification Test (PVT / Smoke Test)
-
หลัง Deploy ไป Production แล้ว ทีมต้องทำ Sanity Test หรือ Smoke Test เพื่อตรวจสอบว่า:
-
Login ได้
-
Transaction ทำงานได้
-
Report ถูกต้อง
-
✅ สรุป:
มาตรฐานการทดสอบของธนาคารจะประกอบไปด้วย Unit → Integration → SIT → UAT → Regression → Performance → Security → DR → PVT
โดยที่ SIT, UAT, Performance, Security, DR Test ถือเป็น Mandatory Test ที่ธนาคารทุกแห่งต้องมี

ตอนทำงาน แล้วเก้าอี้หาย

รับรางวัลจาก คุณบุญเอื้อ จิตรถนอม svp ในสมัยนั้น