Unit Price Contract หรือสัญญาราคาหน่วย เป็นสัญญาที่กำหนดราคาของแต่ละรายการงานตามจำนวนหน่วยที่ดำเนินการ ซึ่งราคาต่อหน่วยจะระบุไว้ในสัญญา โดยจะมีการประเมินราคาของงานตามจำนวนหน่วยที่ดำเนินการจริง และจะชำระเงินตามจำนวนหน่วยที่ดำเนินการจริง
ยกตัวอย่างเช่น สัญญา Unit Price Contract สำหรับงานก่อสร้างทางถนน รายการงานละ หมื่นบาท ถ้ามีการดำเนินการงานทั้งหมด 100 หน่วย จะต้องชำระเงินจำนวน 1 ล้านบาท
สัญญาราคาหน่วยเป็นที่นิยมใช้ในโครงการก่อสร้างที่มีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงบ่อย โดยสัญญานี้มีข้อดีในด้านการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีกว่าสัญญา Lump Sum Contract เนื่องจากราคาของแต่ละรายการงานได้รับการกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว และสามารถปรับปรุงได้ตามความจำเป็น นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ว่าจ้างสามารถควบคุมความสำเร็จของโครงการได้ง่ายขึ้น โดยการตรวจสอบการดำเนินการและรายงานค่าใช้จ่ายเพื่อให้มั่นใจว่างานที่ได้รับสอบรับได้ตามมาตรฐานและคุณภาพที่กำหนดไว้ในสัญญาได้ถูกปฏิบัติด้วยความเหมาะสม
ข้อดีของ Unit Price Contract
1. ความยืดหยุ่น: สัญญาราคาหน่วยเป็นแบบที่มีความยืดหยุ่นสูง โดยผู้ว่าจ้างสามารถปรับเปลี่ยนและเพิ่มเติมรายละเอียดงานได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องทำให้เกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยให้สามารถปรับปรุงและปรับแต่งโครงการได้อย่างยืดหยุ่น
2. ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี: ด้วยการกำหนดราคาของแต่ละรายการงานตามจำนวนหน่วยที่ดำเนินการ จะช่วยให้ผู้ว่าจ้างสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีกว่าสัญญา Lump Sum Contract เนื่องจากราคาของแต่ละรายการงานได้รับการกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว และสามารถปรับปรุงได้ตามความจำเป็น
3. สามารถควบคุมคุณภาพได้ง่าย: ผู้ว่าจ้างสามารถตรวจสอบการดำเนินการและรายงานค่าใช้จ่ายเพื่อให้มั่นใจว่างานที่ได้รับสอบรับได้ตามมาตรฐานและคุณภาพที่กำหนดไว้ในสัญญาได้ถูกปฏิบัติด้วยความเหมาะสม
4. ช่วยลดความเสี่ยง: ด้วยการกำหนดราคาของแต่ละรายการงานตามจำนวนหน่วยที่ดำเนินการ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดค่าใช้จ่ายเกินกว่าที่ได้กำหนดไว้ในสัญญา
ข้อเสียของ Unit Price Contract
1. ความซับซ้อนในการประเมินราคา: เนื่องจากราคาของแต่ละรายการงานต้องถูกกำหนดตามจำนวนหน่วยงาน จึงอาจทำให้เกิดความซับซ้อนในการประเมินราคา และต้องใช้เวลาและทรัพยากรในการประเมินราคาให้ถูกต้อง
2. ความเสี่ยงในการประเมินราคา: การกำหนดราคาของแต่ละรายการงานตามจำนวนหน่วยงานอาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการประเมินราคา โดยเฉพาะในกรณีที่งานมีความซับซ้อนและความยุ่งยากมาก
3. ไม่เหมาะสมกับโครงการที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อย: สัญญาราคาหน่วยเหมาจะมีความยืดหยุ่นน้อยกว่าสัญญา Lump Sum Contract ซึ่งอาจทำให้เกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงงานบ่อย ซึ่งอาจไม่เหมาะสมกับโครงการที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อย
4. อาจเกิดความไม่เท่าเทียมกัน: ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงจำนวนหน่วยงานหรือรายการงาน เช่น การเพิ่มหรือลดของงาน อาจทำให้ค่าใช้จ่ายของแต่ละรายการงานไม่เท่าเทียมกัน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความไม่พอใจในการดำเนินงาน
*การว่าจ้างลักษณะนี้ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเพราะผู้ว่าจ้างไม่รู้ว่าเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะต้องชำระราคาทั้งหมดเป็นเงินจำนวนเท่าใด เหมาะกับงานที่ผู้ว่าจ้างต้องการที่จะเริ่มงานก่อสร้างโดยเร็ว ไม่ต้องการรอให้กระบวนการออกแบบแล้วเสร็จ
แบ่งปันกัน เราอยู่กันไม่เกิน 100 ปีหรอกครับ
สุดท้ายก็ทิ้งไว้ที่โลก จะคงเหลือไว้แต่คุณงามความดีที่ให้ระลึกถึงกันครับ
Follow Us / Thanat Sirikitphattana