หลายท่านคงมีคำถามในใจเกี่ยวกับสัญญาก่อสร้าง หรือการทำงานก่อสร้างการทำสัญญาก่อสร้างว่า Turnkey Contract หมายถึงอะไร ? มีความหมายและวิธีการทำงานกันอย่างไรในงานก่อสร้าง
Turnkey Contract คืออะไร ?
Turnkey Contract หมายถึง สัญญาซึ่งผู้รับจ้างจะรับผิดชอบทั้งหมดในการดำเนินโครงการหรืองานก่อสร้าง ตั้งแต่การออกแบบ จนถึงการส่งมอบงานให้แก่ผู้ว่าจ้าง โดยผู้ว่าจ้างจะไม่ต้องมีส่วนรับผิดชอบในการดำเนินงาน และต้องชำระเงินตามสัญญากับผู้รับจ้างเมื่องานเสร็จสมบูรณ์แล้ว
ในสัญญา Turnkey Contract ผู้รับจ้างจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมดในการจัดหาวัสดุวัตกรรม อุปกรณ์ และบริการที่จำเป็นต่างๆ เพื่อดำเนินการผลิต หรือสร้างโครงการ โดยผู้ว่าจ้างจะไม่ต้องมีส่วนรับผิดชอบในการจัดหาวัสดุวัตกรรมหรืออุปกรณ์เหล่านี้
สัญญา Turnkey Contract เหมาะสำหรับผู้ว่าจ้างที่ต้องการเปิดโครงการใหม่ แต่ไม่มีความรู้หรือทักษะในการจัดการโครงการนั้น หรือไม่มีเวลาหรือทรัพยากรที่จะดูแลโครงการด้วยตนเอง โดยเฉพาะในการสร้างโครงสร้างใหม่ เช่น โรงงาน อาคารสำนักงาน หรือโครงการอื่นๆ ที่ต้องใช้การวางแผนและการจัดการที่ซับซ้อนมากขึ้น
ข้อดีของ Turnkey Contract:
1. ลดความเสี่ยงสำหรับผู้ว่าจ้าง: ผู้ว่าจ้างจะไม่ต้องรับผิดชอบในการดำเนินงานเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นระหว่างการดำเนินงาน เนื่องจากผู้รับจ้างต้องรับผิดชอบทั้งหมด
2. ลดภาระงานของผู้ว่าจ้าง: ผู้ว่าจ้างไม่จำเป็นต้องมีความรู้หรือทักษะเฉพาะด้านในการจัดการโครงการ เนื่องจากผู้รับจ้างจะรับผิดชอบทั้งหมด
3. ลดเวลาในการดำเนินงาน: เนื่องจากผู้รับจ้างเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมดในการดำเนินงาน จึงช่วยลดเวลาในการดำเนินงานให้สั้นลง
4. ผู้รับจ้างมีความรับผิดชอบสูง: ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดชอบทั้งหมดในการดำเนินงาน ทำให้มีความรับผิดชอบสูง และต้องปฏิบัติตามสัญญาอย่างเคร่งครัด
5. มีการควบคุมงบประมาณ: ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดชอบในการควบคุมงบประมาณทั้งหมดของโครงการ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของผู้ว่าจ้างในการใช้งบประมาณเกินกว่าที่ได้กำหนดไว้
*สัญญาก่อสร้างแบบ Turnkey Contract นั้นการว่าจ้างลักษณะนี้ไม่ได้ใช้กันทั่วไป เหมาะกับการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ ที่มีเทคโนโลยีสูง
ข้อเสียของ Turnkey Contract:
1. ขาดความยืดหยุ่น: สัญญา Turnkey Contract มักจะมีรายละเอียดและข้อกำหนดที่ชัดเจนมาก ทำให้ยากต่อการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงระหว่างดำเนินงาน ซึ่งอาจส่งผลให้ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มที่
2. ผู้ว่าจ้างไม่มีการควบคุมโครงการ: การจัดทำสัญญา Turnkey Contract ทำให้ผู้ว่าจ้างไม่ได้มีการควบคุมโครงการอย่างเต็มที่ และอาจไม่สามารถมีส่วนร่วมในการตัดสินใจหรือแก้ไขปัญหาในโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. ค่าใช้จ่ายสูง: การจัดหาผู้รับจ้างและการดำเนินงานในสัญญา Turnkey Contract มักจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการจัดหาผู้รับจ้างแบบอื่น ๆ เนื่องจากต้องจ่ายค่าตอบแทนที่สูงให้กับผู้รับจ้างที่มีความรู้ความชำนาญสูงในการดำเนินงาน
4. การดำเนินงานที่ไม่เหมาะสม: ในบางกรณี ผู้รับจ้างอาจไม่สามารถดำเนินงานตามสัญญาได้อย่างเหมาะสม ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาดหรือความล่าช้าในการดำเนินงาน
5. สัญญา Turnkey Contract มักไม่เหมาะสมกับโครงการที่มีความซับซ้อนและมีความยากลำบากในการกำหนดข้อกำหนดและติดตามการดำเนินงาน ดังนั้นการใช้สัญญา Turnkey Contract อาจทำให้เกิดความผิดพลาดได้ง่ายขึ้น และอาจทำให้โครงการล่าช้าหรือไม่สำเร็จตามเป้าหมายที่ต้องการได้ โดยเฉพาะในโครงการที่ต้องการการออกแบบและพัฒนาที่เป็นเอกสิทธิ์หรือโครงการที่มีความซับซ้อนในการรวมกันของอุปกรณ์หลายชนิดกันเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆ
*การว่าจ้างลักษณะนี้ไม่ได้ใช้กันทั่วไป เหมาะกับการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ ที่มีเทคโนโลยีสูง
แบ่งปันกัน เราอยู่กันไม่เกิน 100 ปีหรอกครับ
สุดท้ายก็ทิ้งไว้ที่โลก จะคงเหลือไว้แต่คุณงามความดีที่ให้ระลึกถึงกันครับ
Follow Us / Thanat Sirikitphattana