
แก้ไขปัญหา ราวสะพานกันตก
ซ่อมสะพานข้ามคลองประปา (วันที่ 29 เมษายน 2568)
สวัสดีครับวันนี้ได้มีโอกาสไปดูสะพานที่ชำรุดซึ่งเราจะซ่อมบรรเทาไปก่อนแล้วค่อยมาของบประมาณเพื่อดำเนินการปรับปรุงใหม่อีกครั้งก็ถือว่าวันนี้มีประสบการณ์ในหน้างานมาฝากกันนะครับ ไม่ว่าการติดตั้งราวกันตกและการเจาะเพลตเพื่อติดพุกยึดนอต หากเป็นเพลตที่ทำการยึดเชื่อมมาอยู่แล้วเป็นการยากมากที่จะยืดนอนติดเพลตเพราะระดับของพื้นที่นั้นสูงต่ำไม่เท่ากัน ส่วนของสว่างที่เจาะนั้นก็ต้องคิดถึงระยะเจาะกันด้วย วันนี้ก็ดำเนินการติดตั้งแต่ไม่แล้วเสร็จก็เป็นประสบการณ์การทำงานมาฝากกัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังมีปัญหากับงานติดตั้งราวกันตกอยู่ไม่มากก็น้อยนะครับ
สถานที่: ทางเข้าหมู่บ้านปูนซีเมนต์ไทย บริเวณซอย 1
วัตถุประสงค์: ซ่อมแซมสะพานข้ามคลองประปาที่ชำรุด เพื่อความปลอดภัยของประชาชนผู้สัญจร

ปัญหาราวกันตกไม่ระดับ ซ่อมสะพานข้ามคลองประปา
รายละเอียดการดำเนินงาน
ในวันนี้ (วันที่ 29 เมษายน 2568) ได้ดำเนินการซ่อมแซมสะพานข้ามคลองประปา บริเวณทางเข้าหมู่บ้านปูนซีเมนต์ไทย ซอย 1 เนื่องจากสะพานเดิมมีสภาพชำรุดและเสื่อมสภาพ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ทาง
หนึ่งในภารกิจสำคัญของการซ่อมแซมครั้งนี้ คือ การติดตั้งราวสะพานกันตก (Guardrail) ซ่อมบรรเทาชั่วคราว เพื่อเสริมความปลอดภัยให้กับผู้สัญจร
ปัญหาที่พบหน้างาน
ระหว่างการติดตั้งราวกันตก พบปัญหาสำคัญคือ
-
ระดับพื้นสะพานไม่เสมอกัน ทำให้เมื่อติดตั้ง เพลทยึดน็อต เพื่อยึดราวกันตก เพลตไม่สามารถแนบสนิทกับพื้นสะพานได้
-
อาจก่อให้เกิดปัญหาเรื่องความแข็งแรง และความปลอดภัยในระยะยาว หากไม่ได้รับการแก้ไขที่เหมาะสม
ราวสะพานไม่ได้ระดับ
แนวทางการแก้ไขเบื้องต้น
เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทีมงานได้พิจารณาวิธีการแก้ไขดังนี้
-
เสริมแผ่นรองใต้เพลต (Shim Plate):
ใช้แผ่นเหล็กบางวางรองในบริเวณที่ระดับพื้นไม่เรียบ เพื่อปรับระดับให้เพลตแนบสนิท -
ขันน็อตด้วยแรงบีบสูง (High Torque Tightening):
ใช้แหวนอ่อน (Spring Washer) และทำการขันน็อตด้วยแรงบีบตามมาตรฐาน เพื่อช่วยดึงเพลตให้แนบกับพื้นมากที่สุด -
เตรียมการเสริมพื้นด้วยปูนซ่อม (Non-shrink Grout):
สำหรับบริเวณที่พื้นเบี้ยวมาก หรือไม่สามารถเสริม shim plate ได้เพียงพอ
ทั้งนี้ การดำเนินงานจะต้องคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัยเป็นสำคัญ และทีมช่างได้วางแผนจะดำเนินการแก้ไขจุดที่มีปัญหาทั้งหมดให้เรียบร้อยก่อนส่งมอบงาน

หน่วย 2 พี่ภมรศักดิ์ ดำเนินการซ่อมสะพาน
สรุป
การซ่อมสะพานในครั้งนี้ พบข้อจำกัดจากสภาพพื้นสะพานเดิมที่ไม่เรียบเสมอกัน แต่ทีมงานสามารถแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้อย่างเหมาะสม และจะดำเนินการต่อเนื่องเพื่อให้การติดตั้งราวกันตกมีความแข็งแรง ปลอดภัย และสวยงาม ตรงตามมาตรฐานวิศวกรรมงานโยธา

หน่วย 2 พี่ภมรศักดิ์ ดำเนินการซ่อมสะพาน ตามคำแนะนำ หน.คมกาจ
การคิดค่าการยึดเพลตหมุดย้ำด้วยพุก (anchor bolt หรือ anchor fastener)
เวลาคำนวณ เราต้องพิจารณา 2 อย่างหลัก ๆ คือ
-
แรงเฉือน (Shear Force) — ระนาบที่พุกอาจถูกตัดขาด
-
แรงดึง (Tension Force) — พุกถูกดึงให้หลุดจากฐาน (โดยเฉพาะเมื่อรับน้ำหนักราวกันตกที่มีแรงผลัก)
📚 วิชาที่เกี่ยวข้อง:
-
กลศาสตร์วัสดุ (Mechanics of Materials)
-
โครงสร้างเหล็ก (Steel Structure Design)
-
การออกแบบการยึดด้วยพุก (Anchor Design) (ส่วนนี้อยู่ในกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานและวิศวกรรมโยธา)
✅ โดยหลักการ ต้องคำนึงถึง
รายการ | คำอธิบาย |
---|---|
1. แรงเฉือน (Shear) | ตรวจสอบว่าพุกรับแรงเฉือนได้เกินกว่าแรงที่เกิดขึ้นหรือไม่ |
2. แรงดึง (Tension) | พิจารณาแรงที่พยายามดึงพุกออกจากพื้น และตรวจสอบค่า allowable tension |
3. Combined Load (Shear + Tension) | ในหลายกรณี พุกต้องรับทั้งแรงเฉือนและแรงดึงพร้อมกัน ต้องใช้สูตรรวม |
4. Pullout Strength | กำลังดึงหลุดของพุกที่ติดตั้งในคอนกรีต (Pullout Capacity) |
5. Edge Distance | ระยะห่างของพุกจากขอบคอนกรีต มีผลต่อแรงที่พุกจะรับได้ (ถ้าใกล้ขอบเกินไปอาจหลุดง่าย) |
6. Spacing Distance | ระยะห่างระหว่างพุกแต่ละตัว ก็มีผลต่อการกระจายแรง |
📏 สูตรคร่าว ๆ ที่ใช้ (ตัวอย่างง่าย)
-
ค่าแรงเฉือนที่อนุญาต
Vallow=Fv×จำนวนพุก -
ค่าแรงดึงที่อนุญาต
TTallow=Ft×จำนวนพุก - t=tension, v=shear
โดยที่
-
-
= ค่าแรงเฉือนพุกตัวเดียว
-
= ค่าแรงดึงพุกตัวเดียว
-
ต้องเทียบแรงที่เกิดขึ้นจริงกับค่าที่อนุญาต (Allowable Load)
-
ถ้าแรงที่เกิดขึ้นจริง < ค่าอนุญาต ➔ ถือว่าปลอดภัย
📚 มาตรฐานที่อ้างอิงได้
-
ACI 318 (American Concrete Institute) — มาตรฐานการคำนวณพุกฝังคอนกรีต
-
ASTM Standard สำหรับพุกและ Anchor Bolt
-
มาตรฐานวิศวกรรมของไทย เช่น มยผ. (ของกรมโยธาฯ)
สรุปสั้น ๆ : คุณต้อง คิดทั้งแรงเฉือน และแรงดึง ใช้หลักการจาก กลศาสตร์วัสดุ และ โครงสร้างเหล็ก เป็นพื้นฐาน
🔧 สถานการณ์สมมุติ:
ราวกันตกน้ำหนัก 500 N/m (แรงแนวดึงออกหรือดันด้านข้าง จากลม คนชน ฯลฯ)
อธิบาย “500 N/m” หมายถึง ราวกันตกต้องสามารถ ต้านแรงผลักหรือแรงดันแนวนอน ได้เท่ากับ 500 นิวตัน (≈ 50 กิโล) ต่อระยะยาว 1 เมตร เพื่อความปลอดภัย
ความยาวราวกันตก = 2 เมตร
ใช้ เพลตเหล็ก 1 แผ่น ยึดด้วย พุก 4 ตัว
พุกฝังคอนกรีต (mechanical anchor หรือ chemical anchor)
ต้องเช็กว่า พุกรับแรงเฉือน + แรงดึงได้ไหม
✍️ ขั้นตอนการคำนวณ
1. คำนวณแรงรวมทั้งหมด
1.1 แรงที่ราวกันตกกดลงบริเวณเพลต : Fทั้งหมด=500 N/m×2 m=1000 N
1.2 แรงนี้จะกระจายไปที่พุก 4 ตัว : Fพุกแต่ละตัว= 1000/4 = 250N/พุก
2. เปรียบเทียบกับความสามารถในการรับแรงของพุก
สมมุติใช้พุก M10 ฝังคอนกรีต ขนาดกลาง รายการ ค่าโดยประมาณ (ทั่วไป) แรงเฉือนที่พุก M10 รับได้ ~1000 N แรงดึง (pull-out) ที่พุก M10 รับได้ ~800 N
✅ ตรวจสอบความปลอดภัย => พุกแต่ละตัวรับแรง 250 N ซึ่ง < 1000 N (เฉือน) และ < 800 N (ดึง) ถือว่าผ่าน ✅
✅ สรุปพุกต้องคำนวณ ทั้งแรงดึงและแรงเฉือน ต่อจุด แรงทั้งหมด ➗ จำนวนพุก = ต้องไม่เกินค่าที่พุกรับได้ คำนวณตามหลัก กลศาสตร์วัสดุ และอิงมาตรฐานเช่น ACI 318