Wednesday, 21 May 2025

ปัญหาราวกันตกไม่ระดับ ซ่อมสะพานข้ามคลองประปา

แก้ไขปัญหา ราวสะพานกันตก

แก้ไขปัญหา ราวสะพานกันตก

ซ่อมสะพานข้ามคลองประปา (วันที่ 29 เมษายน 2568)

สวัสดีครับวันนี้ได้มีโอกาสไปดูสะพานที่ชำรุดซึ่งเราจะซ่อมบรรเทาไปก่อนแล้วค่อยมาของบประมาณเพื่อดำเนินการปรับปรุงใหม่อีกครั้งก็ถือว่าวันนี้มีประสบการณ์ในหน้างานมาฝากกันนะครับ ไม่ว่าการติดตั้งราวกันตกและการเจาะเพลตเพื่อติดพุกยึดนอต หากเป็นเพลตที่ทำการยึดเชื่อมมาอยู่แล้วเป็นการยากมากที่จะยืดนอนติดเพลตเพราะระดับของพื้นที่นั้นสูงต่ำไม่เท่ากัน ส่วนของสว่างที่เจาะนั้นก็ต้องคิดถึงระยะเจาะกันด้วย วันนี้ก็ดำเนินการติดตั้งแต่ไม่แล้วเสร็จก็เป็นประสบการณ์การทำงานมาฝากกัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังมีปัญหากับงานติดตั้งราวกันตกอยู่ไม่มากก็น้อยนะครับ

สถานที่: ทางเข้าหมู่บ้านปูนซีเมนต์ไทย บริเวณซอย 1
วัตถุประสงค์: ซ่อมแซมสะพานข้ามคลองประปาที่ชำรุด เพื่อความปลอดภัยของประชาชนผู้สัญจร

ปัญหาราวกันตกไม่ระดับ ซ่อมสะพานข้ามคลองประปา

ปัญหาราวกันตกไม่ระดับ ซ่อมสะพานข้ามคลองประปา


รายละเอียดการดำเนินงาน

ในวันนี้ (วันที่ 29 เมษายน 2568) ได้ดำเนินการซ่อมแซมสะพานข้ามคลองประปา บริเวณทางเข้าหมู่บ้านปูนซีเมนต์ไทย ซอย 1 เนื่องจากสะพานเดิมมีสภาพชำรุดและเสื่อมสภาพ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ทาง

หนึ่งในภารกิจสำคัญของการซ่อมแซมครั้งนี้ คือ การติดตั้งราวสะพานกันตก (Guardrail) ซ่อมบรรเทาชั่วคราว เพื่อเสริมความปลอดภัยให้กับผู้สัญจร


ปัญหาที่พบหน้างาน

ระหว่างการติดตั้งราวกันตก พบปัญหาสำคัญคือ

  • ระดับพื้นสะพานไม่เสมอกัน ทำให้เมื่อติดตั้ง เพลทยึดน็อต เพื่อยึดราวกันตก เพลตไม่สามารถแนบสนิทกับพื้นสะพานได้

  • อาจก่อให้เกิดปัญหาเรื่องความแข็งแรง และความปลอดภัยในระยะยาว หากไม่ได้รับการแก้ไขที่เหมาะสม

    ราวสะพานไม่ได้ระดับ

    ราวสะพานไม่ได้ระดับ


แนวทางการแก้ไขเบื้องต้น

เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทีมงานได้พิจารณาวิธีการแก้ไขดังนี้

  1. เสริมแผ่นรองใต้เพลต (Shim Plate):
    ใช้แผ่นเหล็กบางวางรองในบริเวณที่ระดับพื้นไม่เรียบ เพื่อปรับระดับให้เพลตแนบสนิท

  2. ขันน็อตด้วยแรงบีบสูง (High Torque Tightening):
    ใช้แหวนอ่อน (Spring Washer) และทำการขันน็อตด้วยแรงบีบตามมาตรฐาน เพื่อช่วยดึงเพลตให้แนบกับพื้นมากที่สุด

  3. เตรียมการเสริมพื้นด้วยปูนซ่อม (Non-shrink Grout):
    สำหรับบริเวณที่พื้นเบี้ยวมาก หรือไม่สามารถเสริม shim plate ได้เพียงพอ

ทั้งนี้ การดำเนินงานจะต้องคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัยเป็นสำคัญ และทีมช่างได้วางแผนจะดำเนินการแก้ไขจุดที่มีปัญหาทั้งหมดให้เรียบร้อยก่อนส่งมอบงาน

หน่วย 2 พี่ภมรศักดิ์ ดำเนินการซ่อมสะพาน

หน่วย 2 พี่ภมรศักดิ์ ดำเนินการซ่อมสะพาน


สรุป

การซ่อมสะพานในครั้งนี้ พบข้อจำกัดจากสภาพพื้นสะพานเดิมที่ไม่เรียบเสมอกัน แต่ทีมงานสามารถแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้อย่างเหมาะสม และจะดำเนินการต่อเนื่องเพื่อให้การติดตั้งราวกันตกมีความแข็งแรง ปลอดภัย และสวยงาม ตรงตามมาตรฐานวิศวกรรมงานโยธา

หน่วย 2 พี่ภมรศักดิ์ ดำเนินการซ่อมสะพาน ตามคำแนะนำ หน.คมกาจ

หน่วย 2 พี่ภมรศักดิ์ ดำเนินการซ่อมสะพาน ตามคำแนะนำ หน.คมกาจ

การคิดค่าการยึดเพลตหมุดย้ำด้วยพุก (anchor bolt หรือ anchor fastener)

เวลาคำนวณ เราต้องพิจารณา 2 อย่างหลัก ๆ คือ

  1. แรงเฉือน (Shear Force) — ระนาบที่พุกอาจถูกตัดขาด

  2. แรงดึง (Tension Force) — พุกถูกดึงให้หลุดจากฐาน (โดยเฉพาะเมื่อรับน้ำหนักราวกันตกที่มีแรงผลัก)


📚 วิชาที่เกี่ยวข้อง:

  • กลศาสตร์วัสดุ (Mechanics of Materials)

  • โครงสร้างเหล็ก (Steel Structure Design)

  • การออกแบบการยึดด้วยพุก (Anchor Design) (ส่วนนี้อยู่ในกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานและวิศวกรรมโยธา)


✅ โดยหลักการ ต้องคำนึงถึง

 

รายการ คำอธิบาย
1. แรงเฉือน (Shear) ตรวจสอบว่าพุกรับแรงเฉือนได้เกินกว่าแรงที่เกิดขึ้นหรือไม่
2. แรงดึง (Tension) พิจารณาแรงที่พยายามดึงพุกออกจากพื้น และตรวจสอบค่า allowable tension
3. Combined Load (Shear + Tension) ในหลายกรณี พุกต้องรับทั้งแรงเฉือนและแรงดึงพร้อมกัน ต้องใช้สูตรรวม
4. Pullout Strength กำลังดึงหลุดของพุกที่ติดตั้งในคอนกรีต (Pullout Capacity)
5. Edge Distance ระยะห่างของพุกจากขอบคอนกรีต มีผลต่อแรงที่พุกจะรับได้ (ถ้าใกล้ขอบเกินไปอาจหลุดง่าย)
6. Spacing Distance ระยะห่างระหว่างพุกแต่ละตัว ก็มีผลต่อการกระจายแรง

📏 สูตรคร่าว ๆ ที่ใช้ (ตัวอย่างง่าย)

  • ค่าแรงเฉือนที่อนุญาต
    Vallow=Fv×จำนวนพุก

  • ค่าแรงดึงที่อนุญาต
    TTallow=Ft×จำนวนพุก

  • t=tension, v=shear

โดยที่

    • = ค่าแรงเฉือนพุกตัวเดียว

    • = ค่าแรงดึงพุกตัวเดียว

    • ต้องเทียบแรงที่เกิดขึ้นจริงกับค่าที่อนุญาต (Allowable Load)

ถ้าแรงที่เกิดขึ้นจริง < ค่าอนุญาต ➔ ถือว่าปลอดภัย


📚 มาตรฐานที่อ้างอิงได้

  • ACI 318 (American Concrete Institute) — มาตรฐานการคำนวณพุกฝังคอนกรีต

  • ASTM Standard สำหรับพุกและ Anchor Bolt

  • มาตรฐานวิศวกรรมของไทย เช่น มยผ. (ของกรมโยธาฯ)


สรุปสั้น ๆ : คุณต้อง คิดทั้งแรงเฉือน และแรงดึง ใช้หลักการจาก กลศาสตร์วัสดุ และ โครงสร้างเหล็ก เป็นพื้นฐาน

🔧 สถานการณ์สมมุติ:

ราวกันตกน้ำหนัก 500 N/m (แรงแนวดึงออกหรือดันด้านข้าง จากลม คนชน ฯลฯ)
อธิบาย “500 N/m” หมายถึง ราวกันตกต้องสามารถ ต้านแรงผลักหรือแรงดันแนวนอน ได้เท่ากับ 500 นิวตัน (≈ 50 กิโล) ต่อระยะยาว 1 เมตร เพื่อความปลอดภัย

ความยาวราวกันตก = 2 เมตร
ใช้ เพลตเหล็ก 1 แผ่น ยึดด้วย พุก 4 ตัว
พุกฝังคอนกรีต (mechanical anchor หรือ chemical anchor)
ต้องเช็กว่า พุกรับแรงเฉือน + แรงดึงได้ไหม

✍️ ขั้นตอนการคำนวณ

1. คำนวณแรงรวมทั้งหมด
1.1 แรงที่ราวกันตกกดลงบริเวณเพลต  : Fทั้งหมด=500 N/m×2 m=1000 N
1.2 แรงนี้จะกระจายไปที่พุก 4 ตัว : Fพุกแต่ละตัว= 1000/4 ​= 250N/พุก

2. เปรียบเทียบกับความสามารถในการรับแรงของพุก
สมมุติใช้พุก M10 ฝังคอนกรีต ขนาดกลาง รายการ ค่าโดยประมาณ (ทั่วไป) แรงเฉือนที่พุก M10 รับได้ ~1000 N แรงดึง (pull-out) ที่พุก M10 รับได้ ~800 N
✅ ตรวจสอบความปลอดภัย  => พุกแต่ละตัวรับแรง 250 N  ซึ่ง < 1000 N (เฉือน) และ < 800 N (ดึง)  ถือว่าผ่าน ✅
✅ สรุปพุกต้องคำนวณ ทั้งแรงดึงและแรงเฉือน ต่อจุด แรงทั้งหมด ➗ จำนวนพุก = ต้องไม่เกินค่าที่พุกรับได้ คำนวณตามหลัก กลศาสตร์วัสดุ และอิงมาตรฐานเช่น ACI 318