สวัสดีครับ หลายท่านคงสงสัยเกี่ยวกับคอนกรีตที่เราใช้ คอนกรีตเทๆไปก็จบ แต่จริงๆแล้วมันไม่จบนะครับ ในงานก่อสร้างนั้นเราต้องบ่มคอนกรีต เพื่อให้ได้คอนกรีตที่มีคุณภาพแข็งแรง
การบ่มคอนกรีตคืออะไร ?
การบ่มคอนกรีตคือ การควบคุมไม่ให้คอนกรีตไม่เสียความชื้น ให้คอนกรีตได้รับความชื่นอยู่ตลอดเวลาอย่างเพียงพอ ป้องกันไม่ให้น้ำระเหยออกจากคอนกรีตเร็วเกินไป ทำให้ปฏิกิริยาไฮเดรชั่น ของซีเมนต์ เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ เพื่อเพิ่มกำลังอัดให้กับกรีตให้ เมื่อคอนกรีตมีกำลังอัดมากคอนกรีตก็จะมีประสิทธิภาพมากนั่นเอง ทั้งยังช่วยเหล็กไม่เป็นสนิมได้ง่าย
การบ่มคอนกรีตมี 3 แบบ
การบ่มคอนกรีต มี3 แบบด้วยกัน คือ การป้องกันการเสียน้ำของคอนกรีต การเร่งกำลังอัดคอนกรีต และการเพิ่มความชื้นในคอนกรีต
- 1. การป้องกันการเสียน้ำของคอนกรีต
วิธีการบ่มคอนกรีตด้วย การป้องกันการเสียน้ำของคอนกรีต นี้จะใช้วิธีการเพิ่มความชื้นให้กับผิวคอนกรีตด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การขังน้ำ หรือ การคลุมด้วยวัสดุเปียกเช่นคลุมด้วยกระสอบป่าน การรดน้ำเพื่อให้คอนกรีตได้รับความชื้นเป็นการเพิ่มความชื้นให้กับคอนกรีต
- 2.การบ่มคอนกรีตด้วยการเร่งกำลังอัด
วิธีการบ่มคอนกรีต ด้วยวิธีการเร่งกำลังอัด วิธีนี้สามารถเร่งอัตราการเพิ่มกำลังอัดได้อย่างรวดเร็ว โดยการใช้อุณหภูมิที่สูงในการบ่ม การบ่มด้วยการเร่งกำลังอัดมีข้อดีที่ ลดเวลาเพราะผลิตคอนกรีตทำได้รวดเร็ว ประหยัดแบบหล่อเพราะถอนแบบได้เร็ว คอนกรีตมีกำลังที่สูงเร็ว ทนต่อการเคลื่อนย้าย แต่ทั้งนี้ควรระวังเรื่อง ระยะเวลาในการบ่ม อัตราการเร่งอุณหภูมิ ให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียต่อคอนกรีต
- 3.การบ่มคอนกรีตด้วยวิธีการป้องกันการเสียน้ำจากคอนกรีต
วิธีนี้เป็นวิธีป้องกันไม่ให้ความชื้นของคอนกรีตระเหยออกไป เช่นการบ่มในแบบหล่อ การใช้แผ่นพลาสติกคลุมเสา การใช้สารเคมีเคลือบผิวคอนกรีต หรือ การใช้กระดาษกันน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้คอนกรีตเสียความชื้น
ทำไมต้องบ่มคอนกรีต 28 วัน ?
คำตอบคือ ACI 318 กำหนดให้ทดสอบกำลังอัดก้อนตัวอย่างคอนกรีตเพียงที่อายุ 28 วัน เพื่อยืนยันว่าเป็นไปตามที่ออกแบบเอาไว้ บางโครงสร้างที่ยังไม่ต้องรับแรงที่อายุ 28 วัน เช่นฐานรากของตึกระฟ้า อาจกำหนดกำลังอัดรับรอง (ตามที่ออกแบบ) ที่ 56 หรือ 90 วันก็ได้ ส่วนโครงสร้างที่ต้องการกำลังอัดที่อายุก่อน 28 วัน เช่น พื้นอัดแรง ปกติจะต้องทดสอบกำลังอัดก่อนการอัดแรง คือที่ 2 หรือ 3 วัน เพิ่มเติมจากอายุ 28 วัน
การทดสอบที่อายุ 7 วันมีจุดประสงค์เพื่อการคาดการณ์ผลทดสอบที่ 28 วัน ซึ่งคอนกรีตโดยทั่วไปจะมีกำลังอัดที่ 7 วันเป็นร้อยละ 65-70 ของกำลังอัดที่ 28 วัน หากทราบผลกำลังอัดก่อนที่ 7 วันว่ากำลังอัดที่ 28 วันมีแนวโน้มว่าจะน้อยกว่าที่ออกแบบก็จะได้เตรียมการเสริมกำลังโครงสร้าง หรือกำหนดแนวทางแก้ไขอื่นๆ การทดสอบกำลังอัดที่อายุ 14 วัน อาจมีจุดประสงค์เพื่อต้องการใช้งานโครงสร้างนั้นๆ ที่อายุ 14 วัน เช่นวัสดุ CLSM (Controlled Low Strength Material) ที่นิยมใช้แทนการถมท่อใต้ถนนด้วยดินหรือทรายบดอัด บทคัดข้อความจาก cp
ถ้าไม่บ่มคอนกรีตจะเป็นอย่างไร ?
ไม่บ่มคอนกรีตเลย จะส่งผลให้กำลังอัดลดลง เหลืออยู่เพียงแค่ 55%
บ่มแบบขั้นต้น 7 วัน หรือจะทำถึง 14 วันก็ได้ จะทำให้มีกำลังอัดอยู่ที่ 70%
บ่ม 28 วัน เป็นระยะเวลาที่สมบูรณ์มากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะมีกำลังอัด 100% และเป็นช่วงนิยมนำไปทดสอบกำลังอัดอีกด้วย
บ่มสูงสุดถึง 180 วัน จะเป็นระยะเวลาที่บ่มนานมากที่สุด ช่วยทำให้คอนกรีตมีกำลังเพิ่มขึ้นถึง 125% เลยทีเดียว
# | ประเภทการใช้งาน | ปูนซีเมนต์ผสม | ปูนซีเมนต์ (ปอร์ตแลนด์ ประเภท 1) | ปูนซีเมนต์ (ปอร์ตแลนด์ ประเภท 3) |
---|---|---|---|---|
1 | งานเสา คาน กำแพง | 7 วัน | 7 วัน | 4 วัน |
2 | งานพื้นบ้าน, พื้นถนนในบ้าน ฯลฯ | 8 วัน | 8 วัน | 4 วัน |
3 | ลานจอดรถ/รันเวย์เครื่องบิน/ถนนชั้นหนึ่ง | – | 14 วัน | 7 วัน |
4 | เสาเข็มที่ใช้ทำฐานราก | 21 วัน | 14 วัน | 7 วัน |
5 | แผ่นพื้นบางๆ | 14 วัน | 14 วัน | 7 วัน |
6 | รูปหล่อที่เล็กบาง /ใช้ปูนซีเมนต์ผสมมาก | – | 21 วัน | 7 วัน |
*ปูนซีเมนต์ผสม คือ ปูนนำมาใช้ในงานก่อ โบก ฉาบ หรืองานก่อสร้างทั่วไป ที่ไม่ต้องการรับน้ำหนักมาก
**ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ประเภท 1 คือ ปูนซีเมนต์ที่ใช้ในงานก่อสร้างคอนกรีตทั่วๆไป เช่น อาคารที่พักอาศัยทั่วไป ถนน ทางเท้า กำแพง ฯลฯ ใช้ในงานที่อยู่ในสภาพอากาศปกติ
***ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ประเภท 3 คือ ปูนซีเมนต์ที่ให้กำลังอัดสูงเร็ว รับแรงได้เร็วกว่าปูนซีเมนต์ประเภท 1 จึงเป็นที่นิยมในการนำไปใช้งานที่ต้องการความรวดเร็ว เร่งด่วน และคล่องตัว
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : Mix-Easy
แบ่งปันกัน เราอยู่กันไม่เกิน 100 ปีหรอกครับ
สุดท้ายก็ทิ้งไว้ที่โลก จะคงเหลือไว้แต่คุณงามความดีที่ให้ระลึกถึงกันครับ
Follow Us / Thanat Sirikitphattana