Monday, 9 September 2024

การใช้คำสั่ง if-else ใน javascript

20 Aug 2023
199
luminox watches

การใช้คำสั่ง if-else เป็นส่วนสำคัญในการเขียนโปรแกรมเพื่อตรวจสอบเงื่อนไขและทำงานตามความเป็นจริงของเงื่อนไขที่กำหนด ดังนี้เป็นตัวอย่างการใช้งาน if-else ในภาษาโปรแกรม JavaScript:

var age = 20;

if (age >= 18) {
console.log("คุณเป็นผู้ใหญ่");
} else {
console.log("คุณเป็นเด็ก");
}

ในตัวอย่างข้างต้น:

เรากำหนดตัวแปร age มีค่าเป็น 20.
คำสั่ง if จะตรวจสอบว่าค่าของ age มากกว่าหรือเท่ากับ 18 หรือไม่ ถ้าเงื่อนไขเป็นจริง จะทำงานในบล็อคของ if ที่อยู่ภายใน.
ถ้าเงื่อนไขใน if เป็นเท็จ คำสั่งในบล็อคของ else จะถูกทำงาน.
เมื่อเรารันโค้ดข้างต้นผลลัพธ์ที่คาดว่าจะได้คือ: คุณเป็นผู้ใหญ่


var temperature = 28;

if (temperature > 30) {
console.log("อุณหภูมิสูงมาก");
} else if (temperature >= 25 && temperature <= 30) { console.log("อุณหภูมิปกติ"); } else { console.log("อุณหภูมิต่ำ"); }

ในตัวอย่างนี้:

เรากำหนดตัวแปร temperature มีค่าเป็น 28.
คำสั่ง if แรกตรวจสอบว่าอุณหภูมิมากกว่า 30 หรือไม่ ถ้าเป็นจริง จะทำงานในบล็อคของ if แรก.
คำสั่ง else if ตรวจสอบว่าอุณหภูมิอยู่ระหว่าง 25 ถึง 30 ถ้าเงื่อนไขเป็นจริง จะทำงานในบล็อคของ else if.
ถ้าเงื่อนไขในทั้ง if และ else if เป็นเท็จ คำสั่งในบล็อคของ else จะถูกทำงาน.
เมื่อเรารันโค้ดข้างต้นผลลัพธ์ที่คาดว่าจะได้คือ: อุณหภูมิปกติ


คำสั่ง if-else ใช้ในการตรวจสอบเงื่อนไขและเลือกการกระทำที่เหมาะสมตามเงื่อนไขที่กำหนด ให้คำสั่งที่อยู่ภายในบล็อคของ if หากเงื่อนไขเป็นจริง และคำสั่งที่อยู่ในบล็อคของ else หากเงื่อนไขเป็นเท็จ และเมื่อมีการใช้งาน else if ก็จะเป็นการตรวจสอบเงื่อนไขเพิ่มเติมในลำดับถัดไปในกรณีที่เงื่อนไขก่อนหน้าเป็นเท็จ และเลือกทำงานในบล็อคของ else if ที่เงื่อนไขเป็นจริง คำสั่งในบล็อคของ else จะถูกทำงานถ้าไม่มีเงื่อนไขใดเป็นจริงทั้งหมดในบล็อค if และ else if

Thanat Sirikitphattana

แบ่งปันกัน เราอยู่กันไม่เกิน 100 ปีหรอกครับ
สุดท้ายก็ทิ้งไว้ที่โลก จะคงเหลือไว้แต่คุณงามความดีที่ให้ระลึกถึงกันครับ

Follow Us / Thanat Sirikitphattana